เยื่อหุ้มที่ยอมให้อากาศผ่านได้
เยื่อที่สามารถให้อากาศผ่านได้ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างปฏิวัติวงการในเทคโนโลยีการก่อสร้างและการผลิตสมัยใหม่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อควบคุมความชื้นและการถ่ายเทไอระเหย พร้อมทั้งรักษาความแข็งแรงของโครงสร้างไว้ เยื่อนี้ทำหน้าที่เป็นสิ่งกีดขวางแบบเลือกสรร ที่อนุญาตให้อากาศและไอน้ำสามารถผ่านได้ แต่ป้องกันไม่ให้น้ำในสถานะของเหลวซึมผ่าน เยื่อที่สามารถให้อากาศผ่านได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทางด้านโพลิเมอร์และโครงสร้างรูพรุนขนาดจุลภาคเพื่อให้ได้คุณสมบัติการทำงานที่เหมาะสมที่สุด โดยทั่วไปเยื่อนี้ประกอบด้วยวัสดุสังเคราะห์ เช่น โพลีเอทิลีน โพลีโพรพิลีน หรือวัสดุคอมโพสิตพิเศษที่ถูกออกแบบมาให้มีรูพรุนที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำ พื้นฐานทางเทคโนโลยีนี้อาศัยสถาปัตยกรรมแบบไมโครพอรัส (microporous architecture) โดยขนาดของรูพรุนจะถูกปรับเทียบอย่างระมัดระวังเพื่ออนุญาตให้อนุภาคก๊าซผ่านได้ แต่ปิดกั้นหยดน้ำขนาดใหญ่ กระบวนการผลิตเกี่ยวข้องกับเทคนิคการอัดรีด การยืด หรือการเคลือบอย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยสร้างการกระจายตัวของรูพรุนอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นผิวของเยื่อ เยื่อที่สามารถให้อากาศผ่านได้ทำงานตามหลักการพื้นฐานของการแพร่ตัว (diffusion) และความสามารถในการซึมผ่านแบบเลือกสรร ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสภาพแวดล้อมอย่างควบคุมได้ คุณสมบัติทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ได้แก่ ความทนทานสูงต่อรังสี UV การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และการสัมผัสสารเคมี เยื่อเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงต่อแรงดึงและความยืดหยุ่นที่โดดเด่น ทำให้สามารถติดตั้งบนพื้นผิวรูปทรงเรขาคณิตหลากหลายประเภทโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ การประยุกต์ใช้งานมีอยู่ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การก่อสร้าง ยานยนต์ สิ่งทอ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในงานก่อสร้างอาคาร เยื่อที่สามารถให้อากาศผ่านได้ทำหน้าที่เป็นวัสดุหุ้มผนังภายนอก (house wrap) วัสดุรองใต้หลังคา และส่วนประกอบระบบผนัง สำหรับการใช้งานในยานยนต์ เยื่อชนิดนี้ถูกนำมาใช้ภายในรถ ระบบเบาะนั่ง และฝาครอบป้องกัน ด้านการแพทย์ ได้แก่ ผ้าคลุมผ่าตัด ผ้าพันแผล และชุดป้องกัน ส่วนความหลากหลายในการใช้งานยังขยายไปยังภาคเกษตรกรรม เช่น วัสดุคลุมโรงเรือนกระจก และระบบป้องกันพืชผล ด้านอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบกรอง วัสดุบรรจุภัณฑ์ และสิ่งกีดขวางป้องกันอุปกรณ์ที่มีความละเอียดอ่อน เยื่อที่สามารถให้อากาศผ่านได้ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านการบูรณาการนาโนเทคโนโลยีและการพัฒนาวัสดุอัจฉริยะ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต